ม.เกริก นำร่อง พานักศึกษาชุดแรกจากประเทศไทย บินศึกษาดูงานซาอุดิอาระเบีย ชี้เป็นผลดีจากฟื้นสัมพันธ์สองประเทศ เกิดประโยชน์กับประชาชนสองฝ่าย โดยเฉพาะมิติการศึกษา
.
นักศึกษาบริหารธุรกิจอิสลาม ม.เกริก คณะแรกของประเทศไทย เดินทางศึกษาดูงาน ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย หลังฟื้นสัมพันธ์สองประเทศเสริมโอกาสด้านความสัมพันธ์ในมิติด้านการศึกษา สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลต่อการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาเข้าสู่ตลาดแรงงานเชื่อมโยงธุรกิจไทย-ซาอุ โดยนักศึกษาได้เข้าพบหน่วยงานสำคัญ และเยี่ยมมหาวิทยาลัยชั้นนำ เพื่อยกระดับมิติด้านการศึกษาของประชาชนสองประเทศให้เกิดความเข้าใจ แลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ สร้างความร่วมมือ และนวัตกรรมด้านการศึกษาการวิจัย ร่วมกัน
เมื่อวันที่ 13-22 ตุลาคม 2566 วิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเกริก นำโดย อาจารย์อำพล ขำวิลัย ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยเกริก อาจารย์สราวุธ และซัน รองคณบดีวิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ อาจารย์ ดร.สมีธ อีซอ ผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจอิสลาม นำคณาจารย์ และนักศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจอิสลาม จำนวน 40 คน เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ภายใต้ “โครงการสานสัมพันธ์การศึกษาบริหารธุรกิจอิสลาม ไทย-ซาอุ” เพื่อเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ครั้งสำคัญของนักศึกษาวิทยาลัยฯ
.
นโยบายของรัฐบาลทั้งสองประเทศได้กลับมาฟื้นสัมพันธ์กันในรอบกว่า 30 ปีทำให้เกิดความร่วมมือในหลายมิติทั้งในด้านการทูต การค้าการลงทุน และด้านการศึกษา โดยมหาวิทยาลัยเกริกเป็นหนึ่งสถาบันการศึกษาที่ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว และขานรับนโยบายภาครัฐ เร่งสร้างเครือข่ายความร่วมมือองค์กร หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในซาอุดีอาระเบีย ตลอดจนการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยไทย และมหาวิทยาลัยซาอุดีอาระเบียอีกด้วย
.
ในการศึกษาดูงานครั้งนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จากกระทรวงการต่างประเทศของไทย และกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย ร่วมประสานหน่วยงานสำคัญเพื่อเข้าศึกษาดูงานถึง 10 หน่วยงาน เช่น องค์การอาหารและยาซาอุดีอาระเบีย (Saudi Food and Drug Authority, SFDA) สภาอุตสาหกรรมเมืองเจดดาห์ (Jeddah Chamber of Commerce and Industry) องค์กรความร่วมมืออิสลาม (Organisation of Islamic Cooperation, OIC)
ธนาคารอิสลามเพื่อการพัฒนา (Islamic Development Bank, IDB) ภัตราคารอาหารไทย (ASEAN TESTE RESTAURANT) กระทรวงฮัจย์และอุมเราะห์, Ministry of Hajj and Umrah, มัสยิดอัรรอจฮี้ นครมักกะห์ สร้างโดย ธนาคารอัรรอจฮี้ (Al-Rajhi Mosque in Makkah by Al- Rajhi Bank), มหาวิทยาลัยอุมมุลกุรอ นครมักกะห์ (Umm – Al Qura University), มหาวิทยาลัยอิสลามมาดีนะห์ (Islamic University of Madinah)
.
ทั้งนี้ คณะศึกษาดูงานได้เข้าเยี่ยมคารวะนายกิตินัย นุตกุล กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ และเข้าศึกษาดูงานสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย โดยได้ให้เกียรติบรรยายหัวข้อ “พัฒนาการของความสัมพันธ์ไทย – ซาอุฯ ในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเน้นการขยายความร่วมมือด้านธุรกิจของทั้งสองประเทศ วิสัยทัศน์ “Vision 2030” ซึ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของซาอุฯ และความร่วมมือของทีม ปทท. ในการสนับสนุนการค้า การบริการ และการส่งออกสินค้าไทยมายังซาอุฯ การส่งเสริมศักยภาพของ Soft Power เช่น อาหารไทย มวยไทย เป็นต้น
นอกจากนี้ คณะศึกษาดูงานยังได้มีโอกาสแสวงบุญประกอบพิธีอุมเราะห์ที่ “วิหารกะบะฮ์” (Kaaba) ณ มัสยิดฮะรอม นครมักกะห์ ซึ่งเป็นศาสนสถานที่สำคัญของชาวมุสลิมทั่วโลก และยังได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนเมืองมาดีนะห์ เข้าเยี่ยมท่านบรมศาสดามูฮัมหมัด ซล. ที่ถูกฝังอยู่ในมัสยิดนะบะวี และเรียนรู้สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของทั้งสองเมืองสำคัญในอิสลาม
.