
มหาวิทยาลัยนอกระบบ หรือมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ เป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐบาล ที่มีการบริหารการจัดการอิสระแยกจากระบบราชการ แต่ยังได้รับเงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐจัดสรรให้เป็นรายปีโดยตรง เพื่อใช้จ่ายตามความจำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย
ปัจจุบัน แม้จะมีมหาวิทยาลัยของไทยออกนอกระบบไปหลายแห่งแล้ว แต่ประชาชนจำนวนมากก็ยังมีความกังวลกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นของ “ค่าเทอม” ที่คนส่วนใหญ่หวั่นเกรงกันมากที่สุดว่าจะมีผลกระทบตามมา
นอกจากนี้ยังประเด็นอื่น ๆ ที่มีข่าวคราวเรื่องการใช้อำนาจผิด ๆ เพื่อผลประโยชน์พวกพ้อง รวมถึงกังวลในด้านสวัสดิการต่าง ๆ ของบุคลากรที่อาจจะไม่ได้รับสิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเรามองไปถึง “ข้อดี” ก็มีประเด็นสำคัญ ๆ หลายข้อที่การออกนอกระบบจะสามารถพัฒนาผู้เรียน ยกระดับความรู้ความสามารถของบุคลากร รวมถึงการบริหารงานต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ รวมไปถึงความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและทันยุคสมัยได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อนำข้อมูลทั้ง 2 ด้านมาเปรียบเทียบกัน จะเห็นได้ว่า การทำงานทุกอย่างย่อมมีทั้งเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น ในขณะเดียวกันก็ย่อมมีอุปสรรคและปัญหาให้ต้องปรับปรุงพัฒนาแก้ไขไปพร้อม ๆ กัน
หากจะชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 ด้าน ต้องบอกว่า “สูสี” ขึ้นอยู่ว่า ผู้บริหารและบุคลากร จะมุ่งมั่นไปในทิศทางเดียวกันตามเป้าประสงค์ในพระราชบัญญัติที่วางไว้หรือไม่
และก็เชื่อว่า ด้วยกลไกการคานอำนาจที่มีอยู่ จะสามารถยับยั้งสิ่งที่หลายคนกังวลใจได้
การออกนอกระบบ ไม่ใช่การตัดหางปล่อยวัด แต่คือการปล่อยให้แสดงฝีมือ
ถ้าไม่ไหว ก็จะมีเครื่องมือมาขจัดปัดเป่าออกไปในท้ายที่สุด