คุณสเตฟานี แบร์โรล (กลาง) รองประธานกรรมการอาวุโส ภูมิภาคอาเซียน บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ พร้อมด้วย คุณสินี จักรธรานนท์ (สองจากขวา) ประธานมูลนิธิ อโชก้า ผู้ริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อสังคม (ประเทศไทย), คุณกนกวรรณ โชว์ศรี (สองจากซ้าย) ผู้อำนวยการโครงการร้อยพลังสร้างสังคมดี มูลนิธิยุวพัฒน์, คุณธานินทร์ ทิมทอง (ซ้ายสุด) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลิร์น เอ็ดดูเคชั่น และคุณรัญภา พรบัญชาตระกูล (ขวาสุด) ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดมงคลโคธาวาส ร่วมกันตัดริบบิ้นเปิด“ห้องสมุดยุคใหม่ เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้” อย่างเป็นทางการ พร้อมส่งมอบสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบออนไลน์ให้แก่โรงเรียนวัดมงคลโคธาวาส จังหวัดสมุทรปราการ
เพราะตระหนักดีว่าการเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ที่ดีมีคุณภาพคือประตูสู่โอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมสำหรับเด็กทุกคน บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับโลกอย่างนีเวียและยูเซอริน พร้อมด้วยพันธมิตรอย่างมูลนิธิอโชก้า ผู้ริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อสังคม (ประเทศไทย) และโครงการร้อยพลังการศึกษา โดยมูลนิธิยุวพัฒน์ เดินหน้าสานต่อกิจกรรมทำดีเพื่อสังคมกับโครงการ “ห้องสมุดยุคใหม่ เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้” ส่งมอบห้องสมุดที่ได้รับการปรับปรุงใหม่สำเร็จพร้อมสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบออนไลน์แก่โรงเรียนวัดมงคลโคธาวาส จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้เสริมสร้างทักษะด้วยตนเองที่ทันสมัยและเหมาะสมสำหรับนักเรียนและเยาวชนในชุมชน พร้อมทำกิจกรรมบ่มเพราะนิสัยรักการอ่านที่ถือเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญต่อพัฒนาการที่ดีในการศึกษาต่อไปในอนาคต
โครงการ “ห้องสมุดยุคใหม่ เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้” เป็นหนึ่งโครงการที่แสดงถึงจุดมุ่งหมายองค์กรอย่าง “CARE BEYOND SKIN” การดูแลที่มากกว่าการดูแลผิวได้อย่างเป็นรูปธรรม และเป็นการคืนประโยชน์ให้กับสังคม โดย ไบเออร์สด๊อรฟ มุ่งมั่นทำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและเท่าเทียมให้กับทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนผ่านการเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงการศึกษาและสร้างทักษะการเรียนรู้ให้แก่พวกเขาอย่างยั่งยืน
คุณสเตฟานี แบร์โรล รองประธานกรรมการอาวุโส ภูมิภาคอาเซียน บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ กล่าวว่า “CARE BEYOND SKIN” คือ จุดมุ่งหมายขององค์กรที่เรายึดมั่นและจัดกิจกรรมให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมมาอย่างต่อเนื่องทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย สำหรับไบเออร์สด๊อรฟ นอกจากเราจะมอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีคุณภาพแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการคืนประโยชน์ให้สังคม โดยการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่คนในสังคมมาอย่างต่อเนื่อง การศึกษาถือเป็นรากฐานที่สำคัญเพื่อให้เด็กสามารถเติบโตต่อไปอย่างมีคุณภาพ ดังนั้นการสร้างทักษะและส่งเสริมวินัยใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในปีที่สองนี้ นอกจากเราจะส่งมอบห้องสมุดและอุปกรณ์เสริมการเรียนที่ทันสมัยให้แก่เด็ก ๆ แล้ว เรายังได้เพิ่มช่องทางการเรียนในรูปแบบออนไลน์สำหรับวิชาวิทยาศาสตร์และภาษาอังกฤษเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยสอนแก่อาจารย์ในโรงเรียน พร้อมฝึกอบรมคุณครูเพื่อให้สามารถเป็นที่ปรึกษาและแนะนำแนวทางในการเรียนและการใช้ชีวิตให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น”
แม้สถานศึกษาและแหล่งการเรียนรู้สำหรับเด็กในประเทศไทยจะมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย กระนั้นการพัฒนาดังกล่าวยังกระจุกตัวอยู่เฉพาะในเขตที่มีความเจริญหรือในกลุ่มประชากรที่สามารถเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้เท่านั้น เพื่อลดช่องว่างการเข้าถึงการศึกษาให้เกิดความเท่าเทียม และดึงดูดเด็กๆ ให้มาใช้ห้องสมุดมากขึ้น นอกจากห้องสมุดที่ตกแต่งและสร้างบรรยากาศน่านั่งแล้ว ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) ยังได้จัดเตรียมหนังสือและสื่อการสอนที่ทันสมัยต่าง ๆ พร้อมด้วยอุปกรณ์การเรียน เกมฝึกสมองและทักษะ แท๊ปเล็ตสำหรับอ่าน E-book ค้นคว้าเพิ่มเติม สื่อการสอนภาษาอังกฤษพูดได้ และระบบจัดการห้องสมุดที่ได้มาตรฐาน เพื่อการประเมินผลโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้เด็ก ๆ สามารถมาศึกษาหาความรู้และพัฒนาทักษะกันได้อย่างเต็มที่ในห้องสมุดแห่งนี้
ไม่เพียงแต่มอบอุปกรณ์การเรียน และของเล่นที่ทันสมัย แต่ทางไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) ยังจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะรักการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับทุกที่ที่ได้ดำเนินการปรับปรุงห้องสมุดให้อีกด้วย ทำให้นักเรียนรู้สึกว่าการเข้าห้องสมุดมีเรื่องที่น่าสนใจกว่าแค่เข้ามาอ่านหนังสือ เพราะนอกจากจะสามารถค้นคว้าหาความรู้ที่ตนเองสนใจแล้ว ยังมีของเล่นและกิจกรรมอื่น ๆ ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และเป็นการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์อีกด้วย
คุณรัญภา พรบัญชาตระกูล ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดมงคลโคธาวาส กล่าวว่า “ทางโรงเรียนรู้สึกยินดีและขอบคุณทางไบเออร์สด๊อรฟด้วยนะคะ ที่มาช่วยพัฒนาให้ห้องสมุดของเรามีชีวิตชีวาและทันสมัยเหมาะแก่การเรียนรู้ของเด็ก ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะความพรั่งพร้อมของอุปกรณ์หรือสื่อการเรียนรู้ทันสมัยมากมาย ที่เชิญชวนให้เด็ก ๆ สนใจและอยากมาทำกิจกรรมเสริมทักษะต่าง ๆ ที่ห้องสมุดมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เช่น E-book เกมสอนทักษะภาษาอังกฤษและวิทยาศาสตร์ รวมทั้งหนังสือที่มีประโยชน์ และบรรยากาศแวดล้อมห้องสมุดซึ่งติดกับป่าชายเลนที่ได้เชื่อมโยงวิถีชุมชนของที่นี่ รวมถึงการมีผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษามาช่วยถ่ายทอดความรู้ใหม่ ๆ ให้กับคุณครูและผู้ช่วยสอนของโรงเรียนที่จะได้ไปต่อยอดในการสอนเด็ก ๆ นักเรียนของเราตื่นเต้นและดีใจกับห้องสมุดโฉมใหม่นี้มาก ๆ ค่ะ เราเองก็หวังว่าที่นี่จะได้ช่วยบ่มเพาะทักษะรักการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ให้เด็กนักเรียนและเยาวชนในท้องถิ่นของเราต่อไปค่ะ”
โดย เด็กชายปัญญากร ศรีทองใบ ตัวแทนนักเรียนจากชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 3/1 ของโรงเรียนวัดมงคลโคธาวาส เผยความรู้สึกต่อห้องสมุดใหม่ว่า “ผมดีใจและชอบห้องสมุดใหม่นี้มากเลยครับ เพราะมีหนังสือสนุก ๆ นวัตกรรม และเครื่องเล่นที่มีประโยชน์ให้ผมและเพื่อนที่โรงเรียนได้มาใช้หาความรู้หลายอย่างเลยครับ ผมเองชอบเกมกระต่ายกับหนูไล่จับชีส ตัวต่อจิ๊กซอว์สอนเรื่องอวัยวะของคน และผมก็ตื่นเต้นกับการได้อ่าน E-book ด้วยครับ มีเรื่องสนุก ๆ ให้อ่านเยอะเลยครับ ผมก็อยากชวนเพื่อน ๆ มาเล่นและอ่านหนังสือที่ห้องสมุดกันบ่อย ๆ เลยครับ ผมขอบคุณพี่ ๆ ใจดีจากไบเออร์สด๊อรฟด้วยนะครับ ที่มาปรับปรุงห้องสมุดให้พวกเราครับ ขอบคุณครับ”
นอกจากนี้ในปีการศึกษาที่ผ่านมา ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) ได้มีการมอบทุนการศึกษาภายใต้โครงการ “ส่งน้องเรียน สร้างเด็กรักการอ่าน” แก่นักเรียนที่เรียนดี รักการเรียนรู้ แต่ยังขาดแคลนทุนทรัพย์ไปแล้วทั้งสิ้นหกทุนการศึกษา (โรงเรียนละหนึ่งคน) โดยปีนี้ ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) ตั้งใจจะมอบทุนการศึกษาช่วยเหลือเด็กขาดโอกาสอีกจำนวน 11 ทุนรวมทั้งสิ้นเป็น 17 ทุนการศึกษาสำหรับเด็กนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 และระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ตลอดหลักสูตรสามปี
ปีที่ผ่านมา ห้องสมุดที่ดำเนินการมอบแล้วเสร็จได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีและเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ โดยมีสถิติการใช้ห้องสมุดมากขึ้น เห็นได้จากมีการยืมคืนหนังสือเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กหลายคนสามารถอ่านและเขียนหนังสือได้คล่องขึ้น สามารถเขียนคำภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง และจากการที่เข้าห้องสมุดเพื่ออ่านหนังสือเป็นประจำ ทำให้การอ่านและจับใจความในชั้นเรียนดีขึ้น อีกทั้งเด็ก ๆ ยังรู้จักแบ่งปันของเล่น รู้จักการรอคอยหากมีคนอื่นยืมหนังสือเล่มที่ตนอยากอ่านไปก่อน และมีทักษะและความฉลาดด้านอารมณ์เพิ่มขึ้นอีกด้วย
“เราดีใจที่เห็นเด็ก ๆ มีพัฒนาการการเรียนรู้ที่ดียิ่งขึ้นในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความฉลาดทางด้านอารมณ์หรือด้านวิชาการ เพราะนั่นทำให้เห็นว่าสิ่งที่เรามุ่งมั่น และจัดทำภายใต้โครงการนี้ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับเด็กนักเรียน ครู เยาวชน และชุมชนโดยรอบ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแบบยั่งยืนได้อย่างแท้จริง” คุณสเตฟานี กล่าวปิดท้าย
#สำนักข่าวการศึกษาไทย